เรื่องของการพัฒนาตนเองนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน หรือเรื่องอื่นๆ การที่เราพัฒนาตนเองไปได้อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เปรียบคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ในองค์กรเอง หลายแห่ง ก็มี Competency ที่ชื่อว่า Self Development ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อให้พนักงานมีการพัฒนาตนเอง เน้นไปที่พฤติกรรมที่ให้พนักงานเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น แต่การที่ตนเองจะพัฒนาตนเองได้นั้น เราเองจะต้องรู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร เรามีจุดแข็งจุดอ่อนอย่างไร การที่เราจะรู้ข้อมูลเหล่านั้นได้ เราก็ต้องเปิดใจกว้าง เพื่อรับข้อมูลเหล่านี้มา เพื่อที่จะเอามาพัฒนาตนเองต่อไป เหมือนกับคำสอนเรื่องน้ำไม่เต็มแก้วนั่นแหละครับ เครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่น่าใช้ ในการที่จะพิจารณาว่าตนเองเป็นอย่างไร และสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาตนเองได้ ก็คือ เครื่องมือที่มีชื่อว่า The Johari Window ตามรูปข้างล่าง เครื่องมือนี้ จะแบ่งมุมมองออกเป็น 4 มุม ดังนี้ เรารู้ และคนอื่นรู้ มุมนี้เขาเรียกว่า Open ก็คือ เป็นมุมที่เปิดเผย คนอื่นรู้ว่า เราเป็นอย่างไร หน้าตาเป็นอย่างไร ชอบอะไรไม่ชอบอะไร เป็นมุมที่เรากับคนอื่นต่างก็เห็นในลักษณะเดียวกัน มุมนี้ จะไม่มีประเด็นในการพัฒนาตนเองมากนัก เพราะเราก็รู้ว่าเราเป็นอย่างไรอยู่แล้ว คนอื่นรู้ แต่เราไม่รู้ มุมนี้เขาเรียกกันว่า Blind ก็คือ จุดบอดที่เรามองไม่เห็นตัวเราเอง แต่คนอื่นที่อยู่ข้างนอกมองเข้ามา กลับมองเห็นอย่างชัดเจนว่า เราเป็นอย่างไร เช่น เวลาที่เราพูด เราชอบเกาหัวไปด้วย เราไม่รู้ตัวเลย แต่คนอื่นเห็นและรู้ ซึ่งถ้าเป็นพฤติกรรมไม่สำคัญอะไรมันก็ยังดี แต่ถ้าเป็นพฤติกรรมที่มีผลต่องาน หรือทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้นั้น เรายิ่งต้องปรับปรุงและพัฒนา ดังนั้นมุมนี้จึงเป็นมุมที่เราต้องมองว่าเป็นขุมทรัพย์แห่งการพัฒนาตนเองเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเราเปิดใจให้กว้าง ยอมรับฟังในสิ่งที่คนอื่นมองเข้ามา เอามาพิจารณาว่าเราเป็นแบบนั้นหรือไม่ ถ้าใช่ เราก็เอามาพัฒนาตนเองต่อให้ดีขึ้น เพื่อปิดจุดบอดนั้นให้ได้ ถ้าเราทำได้ เราก็จะเก่งขึ้น ในช่องนี้แปลง่ายๆ ว่าให้เรายอมรับ Feedback จากผู้อื่นด้วยความเต็มใจ เพราะสิ่งที่คนอื่นบอกเรา เราอาจจะไม่เห็น และไม่รู้มาก่อนเลยก็ได้ เรารู้ แต่คนอื่นไม่รู้ มุมนี้เรียกว่า Hidden ก็คือ เป็นความลับของเราเอง ที่ไม่มีใครรู้ และเป็นเรื่องที่ถ้าเราอยากจะพัฒนาตนเอง เราก็สามารถรับรู้และเรียนรู้ด้วยตัวเราเองได้ โดยที่ไม่ต้องให้คนอื่นมามองเรา หรือบอกเรา เราไม่รู้ คนอื่นก็ไม่รู้ มุมนี้เรียกว่า Unknown ก็คือ ไม่มีใครรู้อะไรเลย มุมนี้ไม่มีความสำคัญอะไรเลย ในการพัฒนาตนเอง จาก Model ข้างต้น ถ้าเราต้องการที่จะพัฒนาตนเองให้เร็ว สิ่งที่เราจะต้องเน้นก็คือ เปิดใจกว้างรับมุมมองที่สอง ที่เป็นมุมที่เรามองไม่เห็น แต่คนอื่นมองเห็น เพราะมันจะเป็น Feedback ที่ดีสำหรับเราในการต่อยอดการพัฒนาตนเองได้อย่างดี ไม่ต้องไปคิดเองเออเอง แต่อาศัยมุมมองของคนอื่นที่มองเข้ามา ประเด็นก็คือ เราเปิดใจรับในสิ่งที่คนอื่นบอกเราได้สักแค่ไหน บางคนบอกเราแล้ว แต่เรากลับปิดตัวเอง ปกป้องตนเองว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น มองคนอื่นว่าจะมารู้ดีกว่าตัวเราได้อย่างไร ผลก็คือ เราก็ไม่ได้เห็นมุมมองจากคนอื่น ซึ่งถ้าเป็นสิ่งที่เขามองได้ถูกต้องด้วยแล้ว เราก็จะปิดโอกาสในการพัฒนาตนเองไปในทันที ดังนั้น ถ้าเราอยากพัฒนาเองให้เร็ว ก็ต้องเปิดใจรับ Feedback จากมุมมองของคนอื่นบ้างนะครับ